ที่เที่ยวธรรมชาติ มาชูกปิกชู หนึ่งในอารยธรรมเก่าแก่ ของมนุษย์ที่ถูกทิ้งร้าง ตามกาลเวลาจวบจน ถึงปัจจุบันที่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่

ที่เที่ยวธรรมชาติ มาชูปิกชู ประวัติ เป็นมาอย่างไร?

ที่เที่ยวธรรมชาติ มาชูปิกชูหรือ เมืองที่หายสาบสูญแห่งอินคา ชาวอินคานั้นมีอารยธรรม ที่เก่าแก่หนึ่งของโลก อาณาจักรแห่งนี้ เป็นเมืองหลวงของ ชาวอินคาในการปกครอง ทั่วทั้งอเมริกาใต้ ชาวอินคาสมัยนั้นมีประกรราวๆ 12 ล้านคน พวกเขาไม่มีภาษาเขียน แต่ชาวอินคากลับ สร้างระบบการปกครอง ผังเมือง การเกษตรกรรม ได้อย่างน่าทึ่ง จุดน่าเที่ยวอเมริกา

อีกทั่งยังมีความรู้เรื่องดวงดาว เป็นบันทึกทำนายอนาคตของโลกเรา เมืองมาชูปิกชู นั้นตั้งอยู่บนเทือกเขา ในประเทศเปรู ด้วยความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,350 เมตร ทำให้ยากที่จะเข้าถึง

เพราะตั้งอยู่บนที่ราาบสูงแอนดิส ลึกเข้าไปในป่าอเมซอน และอยู่เหนือแม่น้ำอุรุบัมบา เป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรื่องเป็นอย่างมาก เพราะในแถบอเมริกาใต้นั้น มีทองคำอยู่เป็นจำนวนมาก

กษัตริย์ของพวกเขา ถูกยกให้เป็นบุตรของพระอาทิตย์ เพราะชาวอินคาเชื่อเรื่อง ของดวงอาทิตย์ให้กำเนิดเผ่าพันธ์ุ นับถือดวงจันทร์ ดาว และโลก ด้วยความเจริญรุ่งเรืองจนขีดสุด เมิ่อชาวสเปนได้ยึดจักรวรรดิอินคา

และจากนั้นเมืองนี้ก็พบกับโรคภัย ไม่นานเมืองนี้ก็ไร้ผู้คน ชาวอินคาสาบสูญจนหมด จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นไป 3 ศตวรรษ ก็ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดี ชาวอเมริกัน ไฮแรม บิงแฮม (Hiram Bingham)

ในปี ค.ศ. 1911 ทำให้ทั่วโลกรู้จักเมืองนี้กันอีกครั้ง สถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทำด้วยหินที่เหมือนเป็นการ วางซ้อนทับกันหลายๆชั้น นับว่าเป็นการก่อสร้างแบบนี้เป็นอารยธรรมที่เก่าแก่อย่างมาก ในช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ เลยก็ว่าได้ 

ที่เที่ยวธรรมชาติ

ที่เที่ยวธรรมชาติ มาชูปิกชูถูก สร้างขึ้นเป็นเมือง หรือ เป็นสถานที่ของนักบวช?

มีข้อเสนอสมมุติฐานว่า มาชูปิกชูเคยถูกปกครองด้วย นักบวชลักธิบูชาสุริยะ และมีการนำตัวหญิงสาวบริสุทธิ์ มาสังเวยให้กับสุริยะ ที่ถือว่าเป็นเทพผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง อีกทั่งเมืองแห่งนี้ยังเป็นป้อมปราการสุดท้าย ในการรับมือกับชาวสเปน แต่ด้วยอาวุธที่ต่างกันอย่างมาก เมื่อโลกรู้จักปืนที่เป็นอาวุธแพร่หลายในยุโรป ชาวสเปนใช้ปืนใหญ่ยิงถล่ม

จนทำให้ชาวอินคาพ่ายแพ้ไปอย่างรวดเร็ว อีกข้อสมมุติฐานหนึ่ง มาชูปิกชูเป็นที่สังเกตการณ์การโคจรของดวงอาทิตย์ และดวงดาว เป็นดาราศาสตร์อีกแขนงหนึ่ง ที่เกิดขึ้นในโลกยุคโบราณ

ชาวอินคามีความเชื่อของการเกิดโลก และจักรวาล ซึ่งสถานที่นี้มีหน้าต่าง ตรงกับดวงอาทิตย์ ที่โคจรมาอยู่ตรงกลางพอดี เมื่อถึงวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันสิ้นสุดฤดูหนาว ส่วนอีกสมมุติฐานหนึ่ง

คาดว่ามาชูปิกชู อาจจะไม่ใช่เมืองก็ได้ สถานที่นี้อาจเป็นสถานที่พักตากอากาศ ของเชื้อพระวงค์กษัตริย์ ในช่วงฤดูแล้ง เพราะในบริเวณโดยรอบ ประกอบไปด้วย วิหารและคฤหาสน์รายล้อมรอบ

รวมไปถึงที่พักของคนงาน ในสถานที่นี้อีกด้วย ช่วงหน้าฝนที่ไม่มีเชื้อพระวงค์มาพักผ่อน ชาวเมืองของที่นี้จะมีราวๆ 750 คน เมืองแห่งนี้ถูกสร้างโดย ปาขากูดี กษัตริย์แห่งอาณาจักรอินคาในช่วงค.ศ. 1440 ผู้คนหลั่งใหลเข้ามา

อาศัยอยู่ในเมืองตลอด จนกระทั่งการเข้ามาของชาวสเปน มายึดดินแดนแห่งนี้ 80 ให้หลัง สถาปัตยกรรมบ้างส่วนเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ปัจจุบันไม่มีคนอยู่อาศัย ภายในเมืองแห่งนี้ก็ยังดูมีชีวิตชีวา เหมือนยุคสมัยชาวอินคา ที่มีการคมนาคมกันอยู่ตลอดเวลา 

มาชูปิกชูมีความเชื่ออย่างไร? 

มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ของการขุดค้นพบโครงกระดูก หญิงสาวที่ถูกบูชายันต์ จำนวนมากมายบริเวณ เมืองมาชูปิกชู หรือการบูชายันด้วยสัตว์ ที่บริเวณแท่นบูชาคอนดอล์ นอกจากนี้ชาวอินคายังมี ความเชื่อโลกหลังความตาย แบบเดียวกับอารยธรรมของอียิป เมื่อขุนนางหรือกษัตริย์ตาย ผู้ติดตามของพวกเขา ก็จะถูกบูชายันต์ตายตามไปรับใช้ ในโลกหลังความตายด้วย

สถานที่นี้จึงกลายเป็น ดินแดนหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ บนรอยเลื่อนของโลก นักโบราณคดีต่างถกเถียง และไม่เข้าใจถึงที่ตั้งมาชูปิกชู ว่าทำไมถึงเดินทางมาสร้างเมือง บนเทือกเขาสูงขนาดนี้ ล่าสุดมีผลการศึกษา ธรณีวิทยาเชื่อได้ว่า

สาเหตุที่ชาวอินคาเลือกดินแดน เทือกเขาแอนดิสแห่งนี้ เพราะตั้งตรงกับรอยเลื่อน ของแผ่นเปลือกโลก และรอยแยกของแผ่นดินที่ตัดกัน เป็นเครื่องหมาย X เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ในอาณาจักรอินคา ความน่าสงสัยนั้นก็คือ

ชาวอินคารู้ได้อย่างไรว่า นี้คือรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก จะว่ากันไปแล้วนั้น ชาวอินคามีความชำนาญ เรื่องดาราศาสตร์เป็นอย่างมาก สามารถคาดการ์การเคลื่อนตัวของพระอาทิตย์ ในวันเวลาต่างๆ

จึงถือได้ว่าเป็นกลุ่มอารยชนแรกๆ ที่คิดค้นปฎิทินเป็นของตัวเองได้ โดยใช้หลักเกณฑ์ทิศทางของดวงดาวและดวงอาทิตย์ ความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับเทพผู้สร้าง นั้นก็คือสุริยะ กษัติร์ยเองถูกเปรียบ เหมือนดั่งสมมุติเทพ เหมือนเป็นบุตรของดวงอาทิตย์ มาเกิดเป็นผู้ปกครอง ชาวอินคาจึงให้ความเคารพ กันเป็นอย่างมาก

ที่เที่ยวธรรมชาติ

มาชูปิกชูเผชิญกับโรคระบาดและล่มสลายอย่างไร?

อาณาจักรอินคาที่รุ่งเรื่องมาหลายศตวรรษ ต้องมาล่มสลายในปีค.ศ. 1532 เนื่องจากความวุ่นวายในเมืองหลวง และศึกการแย่งชิงบัลลังก์กันระหว่างเชื้อพระวงค์ ทำให้เกิดการรบที่ยาวนาน และนำพาไปสู่จุดจบของอาณาจักร อีกทั่งยังมีภัยเรื่องโรคระบาด ที่แพร่ระบาดไปทั่วทั้งอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นโรคฝีดาษ หรือ ไข้ทรพิษ เป็นโรคติดต่ออันร้ายแรง

มีลักษณะที่มีผื่นขึ้นตามตัว ชาวสเปนที่เข้ามานำเชื้อมา แพร่ให้กับชาวอินคาที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน จึงทำให้ชนพื้นเมืองเสียชีวิต กันเป็นจำนวนมาก โรคระบาดนี้ร้ายแรงไปทั่ว ทั้งอเมริกาใต้เลยทีเดียว อีกทั่งการรุกราน

ของกองทหารล่าอาณานิคม ชาวสเปน นำโดย ฟรันซิสโก ปิซาร์โร่ ได้พากองทัพมายังเมืองกาคามาร์ก้า เขาได้ใช้กลอุบายทางศาสนา มาเป็นชนวนในการบุกยึดดินแดน โดยให้นักบวชนำพระคัมภีร์ไบเบิ้ล

ไปมอบให้กับกษัตริย์อินคา เพื่อชักชวนให้ยอมรับศาสนาคริสต์ และอำนาจของจักรพรรดิคาร์ลที่ 5  แต่กษัตริย์อินคากลับปฎิเสธ จากนั้นได้โยนคัมภีร์ไบเบิ้ลลงกับพื้น ทำให้นักบวชและชาวสเปนผู้เคร่งครัดนับถือ คริสต์นิกายคาทอลิก

ถือว่าเป็นการดูหมื่น ต่อพระเจ้าอย่างรุนแรง ทำให้เกิดความชอบธรรม ที่ใช้กำลังบุกยึดครอง ปีซาร์โร่นำทหาร 180 นายเข้ายึดครองเมือง และดินแดนอื่นๆของอาณาจักรอินคา จากนั้นได้จับตัวกษัตริย์อินคาเอาไว้

เป็นค่าไถ่ด้วยทองตามขนาด ความสูงของตัวกษัตริย์อินคา แต่ปิซาร์โร่เองกลับไม่รักษาสัญญา หาข้ออ้างที่จะประหาร กษัตริย์อินคาลงในปีค.ศ. 1533 จึงถือว่าเป็นการล้มสลาย โดยสมบูรณ์ของอาณาจักร  อินคา

ปัจจุบันมาชูปิกชู กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างไร?

ด้วยความอลังการของสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมโลกโบราณ ทำให้มีเสน่ห์ชวนหลงใหล จากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะด้วยที่ตั้งอยู่บนเทือกเขา ทำให้มีบรรยากาศที่สงบและอากาศเย็นสบาย สภาพแวดล้อมเป็นป่าเขา สิ่งแวดล้อมมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นอย่างมาก แต่การเดินทางมายังมาชูปิกชูนั้น ไม่ได้เดินทางขึ้นมาได้ง่ายๆ เพราะที่ตั้งอยู่บนที่สูง

จำเป็นต้องมีไกด์ท้องถิ่นเป็นคน นำทางพาไป จำกัดคนในการเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมมาชูปิกชู ได้แค่ 2 ครั้งต่อวัน จำกัดคนแค่ 400 คนต่อรอบ เท่าน้น จะเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมนั้น ต้องเตรียมพร้อมร่างกายกันซะนิดนึง

สำหรับช่วงเวลาที่ เหมาะสมกับการมาเที่ยวชม จะอยู่ในระหว่างเดือน เมษายน – ตุลาคม ของทุกปี เพราะช่วงพฤศจิกายน จนถึงเดือนมีนาคม จะมีฝนตกอยู่ตลอดเวลา ไม่เหมาะแก่การเดินป่า ปัจจุบันมาชูปิชู

ได้ถูกรับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกในปี 1983 โดย Unesco อีกทั้งวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 มาชูปิกชู ถูกบรรจุอยู่ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่อีกด้วย ทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

ประวัติศาสตร์ที่มีอารยธรรมอันเก่าแก่ และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเปรู เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ทางการได้จัดการระบบ การท่องเที่ยวจำกัดจำนวนคน เพียงวันละ 800 คนเท่านั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าไร มาชูปิกชูแห่งนี้ก็ยังคงเด่นตระหง่าน อยู่บนเทือกเขาแห่งนี้ ที่ชวนให้คนมาค้นหา และสัมผัสเมืองโบราณแห่งนี้ จึงทำให้

มองว่าการมาเที่ยว มาชูปิกชู นั้นทำให้เห็นอารยธรรมโบราณของโลก ที่มีความชำนาญในเรื่องดาราศาสตร์ อีกทั่งยังเป็นต้นแบบต่อยอดวิทยาการดาราศาสตร์ ของโลกเราอีกด้วย

ล่องลอยอารยธรรมที่ผ่านกาลเวลา มาอย่างยาวนาน ชวนให้นักท่องเที่ยว ทั่วทั้งโลกอยากเดินทาง มาพิสูจน์ด้วยตา หากใครชื่นชอบการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ นับว่าห้ามพลาดอย่างยิ่ง

เทศกาลสุดเจ๋ง

สิ่งประดิษฐ์สุดล้ำ

เมืองใน แคนาดา

เที่ยวอเมริกาประหยัด

ท่องยุโรป