ที่เที่ยวลิทัวเนีย หนึ่งในประเทศ ที่ได้แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต และมีสถานที่ท่องเที่ยว ในแบบยุโรปตอนกลาง อันแสนคลาสสิค

ที่เที่ยวลิทัวเนีย ประวัติ เป็นอย่างไร?

ที่เที่ยวลิทัวเนีย มีอีกชื่อที่เป็นทางการว่า สาธารณรัฐลิทัวเนีย ตั้งอยู่ยุโรปตอนกลาง ติดกับทะเลบอลติด ทางทิศเหนือติดกับประเทศลัตเวีย ทิศตะวันออกและทิศใต้ติดกับเบลารุส และทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับ โปแลนด์ และรัสเซีย ในช่วงยุคสงครามเย็นนั้น สหภาพโซเวียตที่มีดินแดนกว้างใหญ่ ตั้งแต่รัสเซ๊ยจรดโปแลนด์ ล้วนแต่เป็นประเทศที่อยู่ในเครือ สหภาพโซเวียต

แต่พอหลังจากที่การล้มสลาย ของสหภาพโซเวียต การก่อกำเนิดประเทศใหม่ๆ ทางยุโรปตอนกลางมีมาก ไม่ว่าจะเป็นเบลารุสหรือลัตเวีย ที่อยู่รอบๆลิทัวเนียต่าง ประกาศเอกราชและแยกตัวออกจาก รัสเซียโดยสิ้นเชิง ลิทัวเนียเองก็เช่นกัน

ที่แยกตัวออกมาเป็นประเทศเล็กๆ ทางตอนเหนือที่ติดกับทะเลบอลตืด ในช่วงแรกนั้นเอง ต้องเจอกับความขัดแย้งตามชายแดน ที่มีกองกำลังรัสเซ๊ยเข้าแทรกแทรง เพื่อหวังให้ลิทัวเนียอยู่ภายใต้เงาของรัสเซีย จึงทำให้ประเทศเล็กๆแห่งนี้

ต้องหาที่พึ่งเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องพบกับ ภัยสงครามนั้นเอง หลังจากนั้นปี ค.ศ.2002 ลิทัวเนียได้ทำข้อตกลง เข้าร่วมสหภาพยุโรปได้สำเร็จ เหมือนประเทศอื่นๆ ที่ใกล้กันอย่าง โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ไซปรัส ฮังการี มอลตา

และสโลวีเนีย นอกจากนั้นเอง ยังเข้าร่วมกองกำลังนาโต้ เพื่อร่วมมือทางกองกำลังทหาร ที่ดูแลความสงบในยุโรปกลางและ ตะวันออกนั้นเอง การเข้าร่วมลงนามในสัญญาต่างๆนั้น ทำให้ลิทัวเนียประเทศที่เล็กๆนั้น ได้แสดงให้ประเทศอื่นๆ รวมถึงคู่ขัดแย้งที่มาอย่างยาวนาน นั้นก็คือรัสเซ๊ย ไม่สามารถที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ เพราะจากการเข้าร่วมลงนาม ในกลุ่มประเทศ ยุโรปตะวันตกต่างๆนั้นเอง 

ที่เที่ยวลิทัวเนีย มี เอกลักษณ์อย่างไร?

ถึงแม้ลิทัวเนีย จะเป็นประเทศเล็กๆที่ปกครองตนเองได้ไม่นาน แต่เสถียรภาพทางการเมืองนั้น เป็นที่ยอมรับกันโดยสากล จึงทำให้ประเทศ ต่างๆพากันมาลงทุน ยังลิทัวเนียที่เป็นพื้นที่ใหม่ สำหรับนักลงทุนต่างๆทั่วโลกนั้นเอง จากการลงนามสัญญาต่างๆ ของลิทัวเนียนั้นจึงทำให้การคู่ค้า ทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน อย่างสหภาพยุโรปเอง มีค่าเงินกลางที่เป็นยูโร และสิทธิพิเศษต่างๆสำหรับ

ประเทศที่อยู่ในสหภาพยุโรปนั้นเอง ระบบการเมืองของลิทัวเนียนั้น เป็นแบบสภาเดียว (Unicamera) เรียกว่า Seimas มีจำนวนสมาชิกในสภาถึง 141 คน มาจากการเลือกตั้ง 70 คนนอกนั้นมาจากการเลือกตั้งสัดส่วน มีวาระดำรงตำแหน่งเพียง 4 ปี

ด้วยการเมืองที่เข้มแข็งแล้ว ยิ่งทำให้เศรษฐกิจในประเทศ ยิ่งเจริญเพราะได้สร้างความเชื่อมั่น ให้กับประเทศต่างๆที่จะเข้ามาลงทุนได้ โดยในอดีตนั้นลิทัวเนียเอง มีปัญหากับชนกลุ่มน้อยชาวรัสเซีย ตามชายแดน ทำให้เกิดปัญาขึ้นบ้างปะปลาย

แต่แล้วหลังจากที่รัสเซีย ได้ถอนทหารออกจากลิทัวเนียไปเมื่อ 31 สิงหาคม ค.ศ.1996 หลังจากนั้นเองเรื่อง ปัญหาชนกลุ่มน้อยก็เป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากเหตุการณ์นี้เอง จึงทำให้นักลงทุนเชื่อมั่น ในลิทัวเนียมากยิ่งขึ้นนั้นเอง ด้วยทรัพยาธรรมชาติที่ตัวเองมี นั้น ได้เปิดโอกาสให้กับการท่องเที่ยว ที่ถือว่าเป็นส่วนช่วยในการพัฒนา เศรษฐกิจของคนในชาติได้นั้นเอง

ด้วยจำนวนประชากรเพียง 3,596,617 คน ทำให้การขับเคลื่อน หรือการพัฒนาเป็นไปอย่างช้า เพราะขาดแรงงานภายในประเทศ รวมถึงบุคลากรที่สำคัญ ในการพัฒนาประเทศอีกด้วย การท่องเที่ยวจึงเป็นส่วนผลักดัน ให้ลิทัวเนียนั้นมีทุนในการพัฒนา ประเทศเล็กๆของตัวเองให้เป็นที่ยอมรับ ของสหภาพยุโรปได้นั้นเอง

ที่เที่ยวลิทัวเนีย

ลิทัวเนียสถานที่ท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?

ประเทศลิทัวเนียเอง ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป และธรรมชาติอันแสนสงบ อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อันเป็นเอก ลักษณ์ ของประเทศเล็กๆแห่งนี้นั้นเอง นอกจากนั้นยังมีธรรมชาติที่สวยงาม ป่าเขาและทะเลสาบ เป็นอีกหนึ่งในประเทศ ที่มีความสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เยอะไม่แพ้ประเทศอื่นๆด้วยเช่นกัน สถานที่ท่องเที่ยวแรก ที่เราจะแนะนำนั้นคือ มหาวิหารวิลนีอุส (Vilnius Cathedral)

เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุด ในลิทัวเนียแล้ว มีที่ตั้งอยู่ในเมือง วิลนีอุส อันเป็นเมืองหลวงของลิทัวเนีย มหาวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1251 เดิมทีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นโกธิค แต่ในภายหลังได้ถูก ทำให้เป็นแบบคลาสสิค ซึ่งมีความสวยงามเหมือนวิหาร ตามสไตล์ศิลปะกรีกเลยก็ว่าได้ ด้านในถูกใช้ประกอบศาสนพิธี และจัดแสดงรูปภาพเก่าแก่ สมัยศตวรรษที่ 14 อีกด้วย

นับว่ามีความสวยงามและทรงคุณค่า ทางผลงานศิลปะของที่นี้นั้นเอง สถานที่ต่อไปคือ ปราสาททราไก (Trakai Island Castle) ปราสาทแห่งนี้มีเอกลักษณ์อย่างมาก เพราะมีที่ตั้งเป็นเกาะ ล้อมรอบด้วยปราการธรรมชาติด้วย

ทะเลสาบกาล์ฟและป่าเขียวชอุ่ม ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองทราไก นับว่ามีความเก่าแก่ ที่เคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน และด้วยปราสาทแห่งนี้เอง ได้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ในอดีตปราสาทแห่งนี้ เป็นอีกปราสาทหนึ่งที่มี ความยากในการโจมตี

เพราะด้วยปราการธรรมชาตินั้นเอง ภายในจัดแสดงวัตถุโบราณ สิ่งของเครื่องใช้ ของกษัตริย์และพระราชินี ที่ครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยู่ที่เมืองแห่งนี้ ปราสาทแห่งนี้จึงมีคุณค่า ทางประวัติศาสตร์ของลิทัวเนียนั้นเอง เราไปกันต่อที่ โบสถ์เซนไมเคิล (St.Micheal the Archangel Churh) โบสถ์มีรูปแบบสไตล์โรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเคานาส ที่ถือว่ามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน

โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1891 -1895 เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรม นีโอไบเซนไทน์ ที่ถือเรียกได้ว่านำเอา ยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ไบเซนไทน์ นำกลับมาผสมผสานทำใหม่ ลักษณะของโบสถ์ที่โดดเด่นนั้นคือมีลักษณะเป็น

โดมขนาดใหญ่ที่มีความโค้งยาว สถานที่นี้ผู้คนมักจะมานั่งพักผ่อน เพราะมีความสงบร่มเย็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่ผู้คนจะนิยมเดินทางมากันนั้นเอง สถานที่สุดท้ายนั้นคือ ดรัสคินินคาอิ (Druskininkai) เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้

ของประเทศลิทัวเนีย นับว่าเมืองนี้เป็นเมืองแห่งสปา และรีสอร์ท เมืองแห่งนี้อุดมไปด้วยธรรมชาติ เพราะมีแหล่งน้ำพุใต้ดิน ที่เชื่อกันว่ารักษาโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับผิวหนัง อีกทั่งเมืองแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบ เป็นเมืองอีกเมืองที่ถือได้ว่า

มีสภาพอากาศที่ดี เหมาะแก่การมาพักผ่อน สูดอากาศดีๆให้กับปอดได้ชุ่มฉ่ำ สถานที่ท่องเที่ยวของลิทัวเนีย ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อีกมากมายอยู่ทั่วหลายเมือง ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวสายธรรมชาติ แล้วละก็จะต้องชอบประเทศแห่งนี้อย่างแน่นอน เพราะอุดมไปด้วยบรรยากาศที่แสนอบอุ่น ของผู้คนในประเทศนี้อีกด้วย

ที่เที่ยวลิทัวเนีย

ปัจจุบันลิทัวเนียเป็นอย่างไร?

ความอุดมสมบูรณ์ ของธรรมชาติและบรรยากาศที่แสนดี จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเศรษฐกิจ ที่สำคัญของลิทัวเนียนั้นเอง เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวที่เข้ามา ช่วยส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ ปัจจุบันประเทศลิทัวเนีย พยายามผลักดันหลักประกันสุขภาพ ให้กับเหล่าประชากรของเขา เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับประชาชน ผู้ที่เสียภาษีที่มีราคาสูงนั้นเอง

ด้วยจำนวนประชากรที่น้อยนั้นเอง จึงทำให้หัวเฉลี่ยต่อการจ่ายภาษี มีราคาสูงตามฐานะ ของแต่ละคนด้วยนั้นเอง อีกทั้งอุตสาหกรมมหลักของลิทัวเนีย เป็นการผลิตอาหาร ยา ไม้ เคมีภัทณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ

และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นการส่งออกหลักของประเทศอีกด้วย ด้วยที่มีคู่ขากับประเทศ รัสเซีย เยอรมัน ลัตเวีย โปแลนด์ เนเธอแลนด์ และเอสโตเนีย ทำให้ลิทัวเนียนั้นมีฐานเศรษฐกิจที่ เติบโตหลังจากที่ก่อตั้ง ประเทศได้ไม่นานนั้นเอง

สรุปการเดินทางท่องเที่ยวลิทัวเนียเป็นอย่างไร?

ลิทัวเนียมีสถานที่ท่องเที่ยว ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทะเลสาบตัดผ่านเมืองหลายๆเมือง และยังมีสถาปัตยกรรม ในช่วงยุคกลางที่แสดงให้เห็นถืง ความยิ่งใหญ่ในอดีตของอาณาจักรแห่งนี้ และพาให้เราเห็นคนยุคโบราณ ที่สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เกิดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ที่ดูยากแก่การ ก่อสร้างได้นั้นเอง นับว่าเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีความคลาสสิคในแบบ สไตล์ยุโรปดั่งเดิมเลยก็ว่าได้

ใครที่ชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์และธรรมชาติแล้วละก็ จะต้องชื่นชอบลิทัวเนีย ดินแดนแห่งโอโซนที่อุดมสมบูรณ์ จึงทำให้ มองว่า ลิทัวเนีย เป็นประเทศขนาดเล็ก ที่มีจำนวนประชากรน้อย แต่ว่ายกฐานะประเทศตัวเอง

ให้เป็นประเทศที่เจริญแล้ว ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ รวมทั้งมีการลงทุนประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้ประเทศมีความเจริญ และถัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปได้นั้นเอง หากมองหาประเทศที่มีอากาศดีๆ อาหารรสชาติแบบยุโรป อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ ลิทัวเนียนั้นเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีเอกลักษณ์ไม่แพ้ใครเลยก็ว่าได้ 

ที่เที่ยวแอฟริกา

เทศกาลสุดอลังการ

สิ่งประดิษฐ์ไอเดียเจ๋ง

ร้านของฟากแคนาดา

รีวิวเที่ยวแอฟริกา

ทัวร์ยุโรปแนะนำ