ที่เที่ยวในพม่า รัฐฉานประวัติเป็นอย่างไร?
ที่เที่ยวในพม่า รัฐฉาน หรือ เมืองไตนั้น มีพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของพม่า เพราะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพม่านั้นเอง ในอดีตนั้นดินแดนแห่งนี้ ถือว่าเป็นอีกอาณาจักรหนึ่ง ที่มีความเข้มแข็งในภูมิภาคนี้ มักทำสงครามกับชาวมอธ และพม่านั้นเอง เนื่องจากพื้นที่ของรัฐฉานนั้น ติดกับดินแดนของจีนอย่าง สิบสองปันนา หรือคุณหมิงนั้นเอง
ซึ่งถือว่าเป็นอาณาจักร ที่มีเมืองสำคัญหลายเมือง ได้รับอิทธิพลจากการค้าขาย กับจีน จึงถือว่าดินแดนรัฐฉานนี้ ต่างเป็นที่ใครหลายคนยึดครอง เพราะเป็นดินแดนเหมาะสำหรับ การค้าขาบกับจีนนั้นเอง รัฐฉานนั้นมีเจ้าฟ้าปกครองอยู่ถึง 34 หัวเมือง
ก่อนที่อังกฤษจะเข้ามายึดครองพม่า ซึ่งรัฐฉานนี้เองมีเชื้อสายหลากหลาย ที่ไม่ใช่แค่ไทใหญ่อย่างเดียว อย่างเจ้าฟ้าองค์หนึ่งชื่อ เจ้าขุนปานจิ่ง เป็นชาวปะหล่องนั้นเอง โดยในอดีตนั้นอาณาจักรต่างๆ ในพม่านั้นยังไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ละยุคสมัยนั้นดินแดนต่างๆ พลัดกันเป็นใหญ่ จนกระทั่งอังกฤษได้เข้ามาเปลี่ยนทุกอย่าง หลังจากที่อังกฤษเข้าปกครองพม่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์
รวมถึงเริ่มตีเส้นแบ่งประเทศ ทำให้อาณาจักรต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของพม่านั้น เท่ากับว่าอยู่ในประเทศเดียวกันนั้นเอง นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการ เข้าสู่ยุครัฐชาติของพม่านั้นเอง จนกระทั่งหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษได้ถอยทัพบ้างส่วน
กลับอาณานิคมอินเดีย จึงทำให้พม่านั้นได้โอกาสนี้ ในการรวบรวมชาติพันธุ์ต่างๆ ในประเทศรวมถึงรัฐต่างๆอีกด้วย เพื่อเป็นการประกาศอิสระภาพของประเทศ ภายใต้การนำโดย นายพลอองซาน บิดาของ อองซาน ซูจี ที่รวบรวมรัฐต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้การตกลงร่วมกัน ในสัญญาป่าหลง ซึ่งข้อตกลงนี้รัฐต่างๆที่อยู่ภายใต้การปกครองพม่า เกิน 10 ปีขึ้นไป
จะสามารถแยกตัวปกครองได้ในปี พ.ศ.2490 หลังจากที่พม่าได้ทำข้อตกลงร่วมกัน อีกทั้งยังได้อิสรภาพจากอังกฤษ รัฐฉานเองก็พร้อมที่จะแยกตัว ออกจากพม่าเหมือนดั่งเช่นแต่ก่อน แต่ทว่าเกิดการยึดอำนาจ
ของนายพลเนวิน ในปีพ.ศ. 2505 ข้อตกลงต่างๆของแต่ละรัฐ ได้ถูกยกเลิกและกลายเป็นการ ใช้กองกำลังทหารเข้าปราบอีกด้วย ทำให้ชาติพันธุ์ต่างๆในพม่านั้น ไม่มีใครเห็นด้วยอย่างแน่นอน แต่ทว่าพม่านั้นที่เป็นคนส่วนมาก และมีอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยกว่า ทำให้เหล่าเจ้าฟ้าของรัฐฉาน ต่างๆได้ถูกจับคุมตัวอยู่ในคุก บ้างพระองค์ได้เสียชีวิต ขณะที่คุ้มตัวบ้างก็มี หรือแม้กระทั่งทำสงครามกัน
เพื่อปกป้องบ้านเกิดก็มี ทำให้ความฝันที่จะแยกตัวของรัฐฉาน กลับห่างไกลออกไปนั้นเอง รวมถึงทุกวันนี้เอง ที่เหตุการณ์ทางการเมือง ยังคงมีอิทธิพลกับรัฐต่างๆ ที่ต้องการปกครองตัวเอง เหมือนในอดีตที่พวกเขา มีอธิปไตยเป็นของตัวเองนั้นเอง
ที่เที่ยวในพม่า รัฐฉานมีความสำคัญกับพม่าอย่างไร?
รัฐแห่งนี้มีความสำคัญ มาตั้งแต่อดีตแล้วที่ชาวเมียนม่า ต้องการที่จะยึดครองดินแดนของรัฐฉาน นอกจากจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ ทางการค้ากับจีนแล้ว ยังมีทรัพยากรทางธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์ ป่าไม้ต่างๆปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ นอกจากนั้นยังมีแร่สำคัญ อยู่หลายชนิดอีกด้วย นับว่าเป็นดินแดนที่สมบูรณ์อย่างมาก จนกระทั่งเมื่อถึงยุค นายพลเนวิน
รัฐฉานได้ถูกคุกคาม และเข้ายึดครองทั้งพื้นที่ ทำให้ทรัพยาการต่างๆ ภายในรัฐฉานนั้น พม่าได้เข้ามาควบคุมดูแล และได้ผลประโยชน์จากดินแดนแห่งนี้ ไปอย่างมากไม่ว่าจะเป็น ทางด้านพลังงาน หรือว่าการค้าขายนั้นเอง เพราะสามารถกำเนิด ภาษีสินค้าที่มาจากจีนได้อีกด้วย รัฐฉานเองต้องพบกับ การถูกย่ำยีศักดิ์ศรี รวมถึงถูกสูบทรัพยากร จนเกือบจะหมดแล้วนั้นเอง
ในปัจจุบันภายหลังรัฐบาล อองซาน ซูจี ได้มีการร่วมลงนามกัน ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในพม่า เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข แต่สัญญาฉบับนี้ ก็ได้ถูกฉีกขึ้นอีกครั้ง เมื่อนายพล มินอองลาย ได้เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาล อองซาน ซูจี นั้นเอง
ทำให้เกิดความไม่พอใจ ไปทั่วทั้งประเทศ ที่มองว่าประเทศกำลังพัฒนา ทำให้ใครหลายคนต้อง ขาดโอกาสได้การพัฒนาประเทศนั้นเอง รวมถึงชาติพันธุ์ต่างๆ หลังจากที่ความสัมพันธ์จากส่วนกลาง กำลังเป็นไปได้ด้วยดี กลายเป็นว่า ณ ปัจจุบันพม่าได้เข้าสู่ สงครามกลางเมืองเหมือนในอดีต
ที่มีการต่อสู้เพื่อปกป้องเขตแดนของตนนั้นเอง นอกจากนี้ทางด้านวัฒนธรรม รัฐฉานนั้นมีวัฒนธรรมประเพณี ที่เผยแพร่เข้ามาทาง ภาคเหนือของประเทศเรา อย่างเช่นเชียงใหม่นั้นเอง ในอดีตนั้นดินแดนล้านนา
ถือว่าเป็นเมืองพี่เมืองน้องกันเลยทีเดียว ความเหมือนกันในหลายๆอย่าง ของวัฒนธรรมจึงเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่า คนทั้งสองฝั่งนั้นมีความสัมพันธ์เช่นไรในอดีต นับว่ารัฐฉานนั้นเป็นอีกรัฐ ที่มีความสำคัญอย่างมากของพม่านั้นเอง
รัฐฉานสถานที่ท่องเที่ยวเป็นอย่างไร?
รัฐแห่งนี้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มีเลือกเล็กๆถึง 54 เมืองเลยทีเดียว ที่ทิศเหนือติดกับประเทศจีน ทางตะวันออกติดกับลาว และทางใต้ติดกับประเทศไทยนั้นเอง เมืองใหญ่ๆของรัฐฉานนั้น ที่นักท่องเที่ยวมักเดินทาง มาสัมผัสกับธรรมชาติ และวัฒนธรรมของผู้คนในรัฐฉานนั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นไฮไลท์ เหมาะแก่การมาพักผ่อน ในยามที่เหนื่อยล้านั้นเอง สถานที่แรกคือ ทะเลสาบอินเล ( Inle lake )
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศพม่าเลยทีเดียว ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 44.9 ตารางไมล์ ความลึกในฤดูแล้งอยู่ที่ 7 ฟุต ช่วงฤดูฝนจะมีความลึกเพิ่มขึ้น 1.5 เมตร ความกว้างของทะเลสาบแห่งนี้ พาให้เราได้เห็นวิถีชีวิตดั่งเดิม
ของชาวประมงหาปลา และยังเป็นอีกมุมหนึ่งที่เห็น แสงพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากเลยทีเดียว สายน้ำแห่งนี้ไหลลงสู่ภาคใต้ ที่นี้ยังมีที่พักให้กับนักท่องเที่ยว ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ ทะเลสาบแห่งนี้ให้จุใจกันเลยทีเดียว อีกทั่งยังมีน้ำพุร้อนธรรมชาติ นับว่าเป็นออนเซ็นของรัฐฉานเลยทีเดียว สถานที่ต่อไปคือ เจดีย์ป่าวต่ออู ( Phaungdaw Oo Pangoda ) เจดีย์ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 5 องค์
ที่คนที่นี้ให้ความเคารพอย่างมาก เพราะในอดีตนั้นท่านผู้ปกครอง พระเจ้าอลองสิทธู ทรงนำพระพุทธรูปนี้มาจากมลายู ช่วงศตวรรษที่ 12 และทรงรับสั่งให้นำไปไว้ที่ถ้ำ จนเวลาผ่านไปร้อยปี มีชาวบ้านมาพบเข้า จึงได้อัญเชิญมาไว้ประดิษฐานยังเจดีย์แห่งนี้ ซึ่งในทุกๆปีจะมีงานบุญ แห่พระพุทธรูปทั้ง 5 ไปทั่วทั้งชุมชน เพื่อเป็นพระพุทธบูชา แก่ชาวบ้านในที่ห่างไกลนั้นเอง จนกระทั่งมีอยู่ปีหนึ่งได้เกิดเรือล่ม
พระพุทธรูปทั้ง 5 ได้จมลงชาวบ้านต่างพาช่วยกันหา แต่ก็พบได้เพียง 4 องค์ จึงต้องนำกลับมาไว้ที่เจดีย์แค่เพียง 4 องค์ แต่ทว่าระหว่างที่พระทั้ง 4 กลับเจดีย์แล้ว ชาวบ้านก็ได้พบองค์สุดท้ายที่จมอยู่ ทั้งๆที่ตำแหน่งนั้นชาวบ้าน
ช่วยกันหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ยังไม่เจอ ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นมา ทำให้ยกเลิกการนำองค์พระออก จากเจดีย์แห่งนี้อีกเลย และได้ทำเสาหงส์ตรงจุดที่พบ องค์ที่ 5 เอาไว้อีกด้วย งานบุญประจำปีนั้น จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างๆ
รวมทั้งคนพม่าเองอีกด้วย ที่มีความเหลื่อมใสในพระพุทธศาสนานั้นเอง เราไปกันต่อที่ ความเป็นอยู่ของชาวบ้านอินตา ชาวบ้านแห่งนี้มีความน่าสนใจอย่างหนึ่ง ที่ถือว่ามีความผูกพันธ์กับสายน้ำแห่งนี้ ทะเลสาบแห่งอินเลนั้น ก็คือบ้านของพวกเขา ที่ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ ของเขานั้นก็คือสายน้ำ พวกเขามีความชำนาญในด้านพายเรือ เพราะทุกๆปีจะมีงานบุญ จัดการแข่งขันพายเรือ
ทำให้พวกเขาต้องพบกับ ผู้แข่งขันจากทั่วภูมิภาคนั้นเอง อาชีพส่วนใหญ่ของเขานั้น ก็คือเป็นชาวประมง เก็บผักลอยน้ำ หรือแม้แต่งานช่าง ที่พวกเขามีความชำนาญมากเลยทีเดียว สถานที่สุดท้ายคือ ถ้ำปิ่นตะยา ( Pindaya Cave )
ถ้ำโบราณที่ห่างจากตัวเมืองตองยี 45 กิโลเมตร เป็นถ้ำของนักแสวงบุญต่างๆ ที่มักเข้ามาปฎิบัติธรรมในถ้ำแห่งนี้ รวมทั้งมีการประดิษฐาน พระพุทธรูป 8,000 องค์เลยทีเดียว จึงเป็นที่เคารพบูชากัน ของคนที่นี้อย่างมากเลยทีเดียว
สถานที่ท่องเที่ยวในรัฐฉาน ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังคงมีวัฒนธรรมจารีตดั่งเดิม ที่ไม่ต่างจากคนไทย จึงทำให้รัฐฉานนั้นเป็นเหมือน พี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกันกับเรานั้นเอง
ปัจจุบันรัฐฉานเป็นอย่างไร?
จากเดิมที่เหตุการณ์ในประเทศสงบสุข กลุ่มชาติพันธุ๊ต่างๆ ในแต่ละรัฐอยู่ร่วมกันภายใต้ข้อตกลง แต่ความสงบนั้นต้องจบลง เมื่อเกิดการรัฐประหารรัฐบาลอองซาน ซูจี ทำให้เกิดปัญหาทางด้าน กองกำลังทหารที่เข้าควบคุมพื้นที่ ทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นอีกครั้ง รวมถึงกลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วย กับการรัฐประหารในครั้งนี้ จึงพากันออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้อง
จนเหตุการณ์บานปลายเป็น สงครามกลางเมือง ทำให้ตอนนี้ประเทศพม่า แตกออกเป็นเสี่ยงๆนั้นเอง อนาคตของรัฐฉานนั้นจะเป็นอย่างไร หลังจากที่ถูกกดขี่มาอย่างยาวนาน จากรัฐบาลทหารพม่า พวกเขาจึงต้องการสถานภาพ กลุ่มของพวกเขาที่ดำรงเอกราช มาอย่างยาวนานในอดีตนั้นเอง
สรุปการเดินทางไปเที่ยวรัฐฉานเป็นอย่างไร?
การได้มาท่องเที่ยวในรัฐฉานนั้น นับว่าเป็นอีกเสน่ห์หนึ่ง ของการท่องเที่ยวในพม่าเลยทีเดียว เพราะชาวรัฐฉานไทใหญ่นั้น มีอารยธรรมจารีต ประเพณีเป็นของตัวเอง รวมถึงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ และสายน้ำขนาดใหญ่ ที่ถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ ของพม่าเลยทีเดียว หากใครที่ชื่นชอบแสวงบุญ หรือชมธรรมชาติอันกว้างใหญ่ รัฐฉานแห่งนี้เป็นอีกที่หนึ่ง ตอบโจทย์ในการผจญภัยนั้นเอง
จึงทำให้มองว่า รัฐฉาน เป็นส่วนหนึ่งของพม่าที่ มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และทรัพยากรมากมาย อีกทั่งยังมีพรมแดนติดกับประเทศจีน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการค้าขาย อีกทั้งเป็นส่วนที่อยู่ในดินแดน สามเหลี่ยมทองคำอีกด้วย ที่มีพรมแดนทั้งสามชาติรวมกัน นับว่าเป็นอีกรัฐหนึ่งในพม่า ที่เหมาะแก่การมาท่องเที่ยว และพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวนั้นเอง